เกาะเสม็ดเปลี่ยนไปมากแค่ไหนในปี 2019?

สวัสดีเพื่อนๆทุกท่านค่ะ

วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน แดดจัด ฝนไม่ตก ทำให้ที่เกาะเสม็ดมีคนมาเที่ยวค่อนข้างเยอะ กลุ่มทัวร์จีนก็มากันเป็นกลุ่มเป็นก้อน

ทางเข้า (Entry)

จำได้ว่าเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วที่มาที่นี่ ไม่ได้จ่ายค่าทางเข้าอุทยานแต่มาครั้งนี้ต้องจ่ายค่าทางเข้า 20 บาท

และจ่ายค่าอุทยานฝั่งชายหาดทรายแก้วอีกคนละ

คนไทย 40 บาท ต่างชาติ 200 บาท

ถ้ารวมกัน คนไทยจ่ายทั้งหมด 20+40=60THB

ต่างชาติ 20+200=220 บาท

จะมีพี่ๆทหารยืนเฝ้ารอเก็บตังค์สำหรับใครที่มีเป้ใบใหญ่ๆ

อีกอย่างที่เปลี่ยนไปคือ ปกติจะมีเก้าอี้ตั้งอยู่ริมชายหาดและมีการเก็บตังค์จากลูกค้า แต่เท่าที่นั่งสังเกตกับแฟน เออ! มันหายไปอ่ะ! จนนั่งคุยกับแฟนว่ามันหายไปไหน แฟนเลยเข้าไปเช็คในเว็บไซส์ เขาบอกว่าจับคนที่คอร์รัปชั่นได้ 80 กว่าคน

เลยร้อง อ๋อ! กับแฟนว่า....อย่างนี้นี่เอง เพราะชายหาดบ้านเราจะเก้าอี้ให้นั่งแต่ต้องจ่ายค่านั่ง ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร แต่นั่นแหล่ะ ณ ปัจจุบันไม่มีแล้ว ลูกค้านั่งได้อิสระ และชายหาดขาวสะอาดมากขึ้น

ที่นี่เขางดใช้โฟม ถุงพลาสติกนะคะ ถ้าไปเซเว่นซื้อของ 3-4 ชิ้นแล้วเขาไม่ให้ถุงพลาสติกอย่าพาลไปด่าเขาเด้อ ไม่งั้นถ้าพนักงานให้ถุงพลาสติกลูกค้าเดี๋ยวโดนปรับ 1000 บาท

และที่นี่เขามีแยกขวดน้ำพลาสติกและขวดแก้วด้วยนะ เรามาครั้งนี้เลยรู้สึกว่า เออ! ดีอ่ะ แทบจะไม่เห็นใครหิ้วถุงพลาสติกเลย

ถ้ากรุงเทพทำได้อย่างนี้บ้าง ใจกลางเมืองใหญ่ของประเทศไทยเราจะสะอาดมากๆยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวก็จะหลั่งไหลเข้ามามากขึ้น เพราะทะเลไทยสวยอยู่แล้ว

ที่สำคัญเกาะที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ ควรมีกล้องวงจรปิดด้วยก็ดี เพราะเผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้ตามหาคนร้ายได้ง่ายขึ้น

ไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัยที่สุด แม้แต่ดูไบเองก็มีแท๊กซี่ข่มขืนผู้หญิง แต่ขเมืองเขาดีหน่อยพอเกิดเรื่องเขาก็รีบแก้ปัญหา โดยการติดกล้องในแท๊กซี่ทุกคันและติด GPS ติดตามทุกคันว่าไปส่งลูกค้าที่ไหน เส้นทางไปไหนมาบ้าง เขาตรวจสอบกันได้หมด

ได้แต่ฝันว่าแท๊กซี่บ้านเราจะทำแบบนั้นได้บ้าง😁😁😁😁😁😁

วันนี้ร่ายมาเยอะ พอละ! จะสุดสัปดาห์ละ

ขอให้เพื่อนมีความสุขทุกท่านนะคะ

ขอบคุณที่สนับสนุนตลอดมา

Much love
Alex.

Posted using Partiko Android