ท้องฟ้าที่ไร่ของฉัน⛅ ☁️ ☁️
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ที่น่ารักทุกคน 😘😘
ตอนนี้ฝนเริ่มตกลงมาบ้างแล้ว พืชผลการเกษตรก็เริ่มงอกงามดีแล้ว เมื่อวานออกไปไร่ช่วงบ่ายๆ ก็เลยถ่ายรูปท้องฟ้าในไร่มาฝากเพื่อนๆ ค่ะ ตอนกลางวันแดดแรง ก้อนเมฆหนาแน่น คิดว่าตอนเย็นฝนต้องตกหนักแน่ๆ พอตกเย็นมาทั้งลมทั้งฝนเลยค่ะ แถมไฟฟ้าดับอีกต่างหาก มืดไปทั้งตำบล ลมหอบพายุลูกใหญ่มาตกทั้งที่ไร่ และที่บ้าน ชุ่มช่ำไปตามๆ กัน ถูกใจบรรดาชาวไร่ทุกคนเลยค่ะ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มฤดูกาลเพาะปลูก ถ้าฝนไม่มาพืชผลที่ปลูกไว้คงได้รับความเสียหาย หลังจากที่ปลูกพืชได้สักระยะก็ต้องเริ่มให้ปุ๋ยพืชที่ปลูกไว้ ใครที่เพิ่งใส่ปุ๋ยก่อนพายุมา อันนี้น่าเห็นใจค่ะ เพราะน้ำฝนจะชะล้างปุ๋ยที่เราเพิ่งใส่ไปให้ไหลไปกับน้ำหมด เท่ากับว่าใส่ปุ๋ยไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะพื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่ของที่นี่ จะไม่ค่อยมีพื้นที่ราบ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่ตามเนินเขา เวลาฝนมารับรองได้เลยไม่ปุ๋ยเหลือถึงต้นไม้แน่นอน เพราะฉะนั้นเกษตรกรส่วนใหญ่ ก่อนจะใส่ปุ๋ยพืชผล ก็ต้องต้องเช็คดินฟ้าอากาศให้ดีเสียก่อน เพราะถ้าไม่เช็ดก่อน กำไรที่จะได้จากการขายผลผลิต ก็จะลดน้อยลงไปอีก
อย่างที่เคยเขียนในหลายๆ โพสต์ว่า อำเภอพบพระ เป็นอำเภอที่ปลูกพืชผักเป็นจำนวนมาก ส่งขายทั่วประเทศ ผักส่วนใหญ่ของอำเภอพบพระก็จะถูกส่งไปยังตลาดสี่มุมเมือง ส่วนพวกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเขียว พวกนี้ จะมีพ่อค้าคนกลางรับซื้อไปขายอีกทอด ชาวชนบทส่วนใหญ่ก็ประกอบอาชีพเกษตรกร มาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังทำอยู่ แต่ก็ปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม เกษตกรรายไหนที่มีเงินทุนหนา ทำเป็นสวนปลูกพืชเศรษฐกิจ เปิดฟาร์มให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชมผลไม้ต่างๆ ที่ปลูกไว้ในฟาร์ม เป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการขายผลิตผล ซึ่งเดี๋ยวนี้มีหลายเจ้าทำกันแบบนี้ ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดี ตอนนี้ที่อำเภอพบพระแทบจะปลูกพืชเมืองหนาวได้เกือบทุกชนิด ดังนั้นจึงมีผลผลิตออกป้อนตลาดตลอดเวลา เพราะที่อำเภอพบพระสามารถปลูกพืชได้ทุกฤดูกาล ยิ่งปลูกพืชนอกฤดูกาลยิ่งได้ราคาดีกว่า ทำให้เกษตรกรหลายๆ คนที่เคยทำไร่ข้าวโพด หันมาปลูกพืชเมืองหนาวกันเป็นจำนวน แต่ของยุการทำไร่ตอนนี้เป็นอาชีพเสริมไปแล้ว อาชีพหลักของยุคือขายของ
💝💝สุดท้ายขอบคุณเพื่อนๆ ที่ยังติดตามและกดโหวตให้กันเสมอมา💝💝