ใครไม่มีสิ่งที่รักคนๆนั้นก็ไม่มีทุกข์
อนิจจังครั้งก่อนเคยสวยน่ารัก มาก.....555. ว่ากันไปค่ะ.. ณ. วันนี้วัยชราใกล้เลข 4.....เริ่มมาเยือนล๊ะ เก็บภาพไว้ดูปีหน้าและปีต่อๆไป ก่อนที่จะไม่น่าดูเอาสะเล้ย อืมหลงรูปยังดีกว่าหลงจิตเนาะ จริงไหม?ค่ะ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆที่น่ารักทุกท่าน วันนี้มาตอนเย็นเลยค่ะ
นึกถึงตอนสมัยสาวๆ ครอบครัวเรามีกันไม่กี่คนอยู่มาวันหนึ่งน้องสาวได้พบรักและแต่งงานกับผู้ชายคนนึงซึ่งเพียบพร้อมและนิสัยดีมาก
เธอทั้งสองได้แต่งงานกันและมีลูกน้อย 2 คน อยู่มาวันหนึ่ง สามีของน้องสาวเกิดไม่สบายขึ้นมา น้องสาวก็พาสามีของเธอไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมือง ถึงเวลาเรียก เข้าพบหมอ เธอกลับไม่ได้เข้าไปกับสามีด้วย เพราะสามีเธอแข็งแรงแค่ไม่สบายนิดหน่อย อยากเข้าไปคนเดียวบอกกับน้องสาวอย่างนั้นแล้วสามีเธอก็เดินเข้าไปพบหมอ ต่อมาผ่านไป 3-4 วันอาการของ สามีน้องสาวก็ไม่ดีขึ้นกลับทรุดลงน้องสาวก็ถามสามีตนว่า หมอว่าอย่างไรบ้าง เห็นแต่ยาที่คุณหมอจัดมาให้
ก็จัดให้สามีทาน
สามีเธอก็ไม่ตอบสามีเธอก็บอกว่าทานยาเดี๋ยวก็หายอาการก็ค่อยๆดีขึ้นไปเอง เธอก็ไม่ได้สบายใจอะไรนักหนาน้องสาว
ต่อมาเธอก็ได้โทรมาที่ เราทางเราก็พยายามติดต่ออยู่ตลอดว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนั้นห้องในครอบครัวเปิดร้านอาหารอยู่เกาะพะงัน ได้แต่ติดต่อทางโทรศัพท์ เข้าไปวันที่ 5 ทางบ้านของ สามีพี่น้องสาวอาศัยอยู่ด้วยเขาค่อนข้างจะเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ มีคนเอาน้ำมนต์ของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆแก้บนบานศาลกล่าว ประมาณนี้เผื่อว่าอะไรจะดีขึ้น
สามีเธอกลับไม่มีแรงเดิน
ต้องนอนอยู่กับที่ ไปไหนมาไหนก็ต้องประคับประคอง ทุกคนพยายามถาม ว่าหมอว่าอย่างไรบ้าง แต่สามีเธอก็ไม่บอกกับอาการที่เกิดขึ้น น้องสาวก็ได้บอกมาว่าแค่รู้ว่าสามีเธอ เป็นโรคไตแต่ก็ไม่แรงนะได้บอกเรามาอย่างนี้ตอนนั้นสามีของน้องสาวอายุแค่ 27 ปีซึ่งอายุยังน้อยมาก เราก็คิดว่าอายุน้อยก็คงจะไม่มีอะไรมาก
แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ ความเจ็บไข้ได้ป่วยก็ยังคงอยู่แต่ทุกคนก็เป็นกำลังใจให้ กันอย่างดีมีญาติๆวนเวียนกันไปเยี่ยม สม่ําเสมอ
สามีของน้องสาว อาการดีขึ้นในวันที่ 11 ของอาการป่วย เดินคล่องแคล่ว ซึ่งเขาได้ซื้อรถ กระบะไว้ 1 คันตอนครึ่งสามีของน้องสาวเป็นคนรักรถมาก วันนั้นก็เลยขอไปนอน แบบสบายๆในรถน้องสาวก็พาไปนอนในรถ อาการดีขึ้นมาก สามีของน้องสาว ขอใส่ชุดขาว เพื่อไปที่โรงพระเพื่อจะกินเจ น้องสาวก็จัดหาให้ใส่ เมื่อแต่งตัวเสร็จน้องสาวก็โทรหาญาติๆ ด้วยความดีใจทุกคนก็ต่างเดินทางไปที่บ้าน ของ สามีน้องสาว ทุกคนเห็น ใบหน้าแจ่มใสเดินเหินคล่องแคล่ว ปิดหูปิดตาทุกคนที่เห็นต่างดีใจ จากที่นอนติดที่มา 3-4 วันกลับกลายเป็นคนหายป่วยและเดินคล่องแคล่ว พูดจาฉะฉาน ทุกคนก็ต่างขึ้นรถพาสามีของน้องสาวไปที่โรงพระ เพื่อความสบายใจของ เขา ทุกคนทำตามหมดทุกอย่าง ให้คนไข้ได้สบายใจ พอไปถึงโรงพระไม่นาน ไหว้พระทำอะไรเสร็จหมดทุกอย่างก็เดินกลับมาที่รถ แต่กลับมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น สามีของน้องสาวเกิดหมดแรง ไม่มีแรงก้าวเดินตัวอ่อนจนทุกคนต้องมาอุ้มส่งโรงพยาบาล ในรถก็พยายามเรียกชื่อเพราะเขาหมดสติ ทำจนหมดวิถีทางที่จะเรียกให้เขาตอบสนอง ทุกคนพยายามเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ โดยเฉพาะน้องสาวเรียกสามีของเธอ ตื่นขึ้นมาจาก การหลับตา ขับรถได้แค่ครึ่งทาง น้องสาวก็เอามือไปจับมือสามีเธอแล้วก็หันมาบอกทุกคนว่าเหมือน........ ชีพจรจะไม่เล่น
และในขณะนั้นทางญาติก็ได้โทรศัพท์ รถพยาบาลมารับด้วยมาเจอกันครึ่งทางก็เลยโยกย้ายคนไข้ขึ้นรถพยาบาล ในรถที่ขึ้นไปก็มีน้องสาวและญาติของเรามีคนที่ขึ้นไป พยาบาล ทำการช่วยเหลือ ใช่เครื่องปฐมพยาบาล ช่วยอย่างสุดความสามารถ รถพยาบาลออกไปได้สักระยะ แต่ชีพจรก็ไม่เต้น คนขับรถก็เร่งรีบให้ถึงโรงพยาบาลเมื่อถึงโรงพยาบาลก็เข้าห้องฉุกเฉิน ทุกคนก็รออยู่ด้านนอก น้องสาว โทรมาเล่าเหตุการณ์ตลอด ในที่สุดเธอก็ได้เข้าไปในห้องฉุกเฉินด้วย หมอช่วย อย่างเต็มที่
ในที่สุดสามีเธอก็ไม่กลับมา จากไปอย่างสงบ
เวลาเราอยู่ด้วยกันมีไม่มาก .... อะไรที่ทำร่วมกันแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะค่ะ ........ แต่โอกาสที่จะมีความสุขร่วมกันอาจจะมีแค่ครั้งหนึ่งถ้ามันผ่านไปแล้วมันอาจจะไม่กลับมาอีกเลย......
มีความตายเป็นธรรมดา
วันนี้ก็ขอจบการเขียนบล็อกไว้เพียงเท่านี้ก่อนค่ะขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจกันตลอดมาขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ
Life is full of uncertainty!
Peace and love to all.
ขอบคุณมากค่ะ
Thanks for using eSteem!
Your post has been voted as a part of eSteem encouragement program. Keep up the good work! Install Android, iOS Mobile app or Windows, Mac, Linux Surfer app, if you haven't already!
Learn more: https://esteem.app
Join our discord: https://discord.gg/8eHupPq
Thank You for Your support