ข้าวของเสียหายไม่ใช่ปัญหา
การทำงานการทำอะไรต่ออะไรต้องดู อะไรมันถูกมันผิด ทำแล้วมันเป็นไปเพื่อความถูกต้องไหม
คนเราตั้งแต่ก้าวออกไปจากบ้าน หรือก้าวออกจากที่นอน ก่อนจะออกจากที่นอนเราต้องพับผ้าห่มให้มันเรียบร้อย เก็บที่นอนตัวเองให้เรียบร้อย เต็นท์ก็ต้องปิดซิบ อันนี้ โอ๊ยไม่มีทาง ผ้าห่มไม่เก็บ อยู่บ้านทำแบบนี้หรือ พ่อแม่ต้องมาเก็บผ้าห่มให้อย่างนี้ เราต้องช่วยตัวของตัวเอง เขาเรียกว่า ธรรมชาติบำบัด ฝึกฝนขึ้นมาด้วยธรรมชาติ
ข้าวของไม่มีความหมายหรอกกับพ่อแม่ แต่มีความหมายกับพ่อแม่คนจะอยู่กับโลกไปิีกไม่ช้านาน ถ้าพ่อแม่เขาตาย ตัวเองจะอยู่ยังไง ถ้าไม่ฝึกหัดไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ต้องช่วยตัวเองในตอนนี้ ช่วยตัวเองในการศึกษาเล่าเรียน ช่วยตัวเองในการทำงานทำการต่างๆ อย่างล้างจานล้างของพากันไปล้างตรงหน้าห้องน้ำ หรือล้างที่ครัว ขยะทีมีอยู่เราก็ต้องเก็บทิ้งถังขยะ เหมือนกับข้าวที่เรากินทุกวันเราก็ต้องเอาแต่พอดีไม่ใช่เอาทีมากๆๆ ปัญหามันอยู่ที่ตัวเรา ว่ารู้จักคำว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ความถูกต้องกับความถูกใจคนละอย่างกัน เราจะเอาแต่ความถูกใจของเรามาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ เราต้องเอาระเบียบแบบแผนมาเป็นบรรทัดฐาน เพื่อที่จะได้ให้ความดีทั้งหลายเกิดขึ้นมาในหัวใจของเรา ขับไล่ความชั่วที่มีอยู่ออกไปจากใจเรา เมื่อเรามีความดีแล้ว ต่อไปเราจะเป็นคนดี ไม่กลายเป็นคนชั่ว มีสองอย่างอยู่อค่นั้น ถ้าไม่ได้เป็นคนชั่วก็ไปเป็นคนดี