อย่าผลักไสภาระรักษาความรัก ให้เป็นหน้าที่ของอีกฝ่าย”
รู้สึกแย่จริงๆนะหมอ
เรารักเขา เราคบกับเขา
เพราะเราเห็นว่าเขาเป็นคนดี
แล้วนี่จู่ๆเขามากลายเป็นคนแบบนี้
เราแบบ ไม่เหลืออะไรให้ ... คบต่อเลย
เจ้พยักหน้า
“งั้นนายก็จำไว้เป็นบทเรียนเนอะ”
เพื่อนเงยหน้าจากแก้วเหล้ามาถาม
“บทเรียนว่าให้ดูกันไปยาวๆก่อนคบเหรอหมอ?”
เจ้ส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอกแก บทเรียนที่ว่าคือ ...
อย่าผลักไสภาระรักษาความรัก
ให้เป็นหน้าที่ของอีกฝ่าย”
……….
“เรารักเขานะ เพราะเขาเป็นคนดี”
“เพราะเธอเป็นคนดีแบบนี้ไง เราถึงรัก”
“ผมแพ้ความดีของคุณจริงๆ ผมถึงได้รักคุณไง”
ประโยคคำพูดดีๆเหล่านี้ เธอเคยมองอีกมุมไหมว่า มันคือความผิดพลาด?
หลายคนส่ายหน้า ผิดพลาดเหรอเจ้? ผิดพลาดยังไงอ่ะเจ้? จริงๆเมื่อก่อนเจ้ก็เป็นคนหนึ่งเหมือนพวกเธอที่ส่ายหน้าเหมือนกัน แล้วเพื่อนเจ้ที่มานั่งจิบเหล้าปรึกษาอยู่ตอนนี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
เขาบอกว่าเขารักคนคนหนึ่ง เพราะว่าคนคนนี้เป็นคนดี เขาเจอคนแย่ๆมาเยอะ พอมาเจอคนที่ดีๆ เขาเลยรู้สึกว่าโชคดี และตกหลุมรักอย่างง่ายดาย แม้จะต้องฝ่าฟันจีบมาให้ได้ สุดท้ายเขาก็ชนะแหละ
ทีนี้พอมาคบไปสักพัก คนรักของเขาทำผิดขึ้นมา และมัน aginst ความดีทุกอย่างที่เขาเคยทำมาเลย เพื่อนเจ้เลยรู้สึกว่าล้มเหลวที่สุด นอกจากต้องเลิกกันแล้ว เขายังเสียใจชนิดที่แบบเสียสูญอ่ะ เลยมาจบที่นั่งปรึกษาเจ้เนี่ยแหละ
เรารู้สึกแย่จริงๆนะหมอ
เราอุตส่าห์ไม่เลือกคนที่หน้าตา
เราอุตส่าห์เลือกคนที่ความดี
เราคบเขา เรารักเขา
เพราะเราเห็นว่าเขาเป็นคนดี
แล้วพอจู่ๆเขากลายมาเป็นคนแบบนี้
เราแบบ ... ไม่รู้ดิ เราแทบไม่เหลืออะไรเลยอ่ะ
มันยิ่งกว่าเลิกคบกันอีกอ่ะหมอ มันแบบ ...
พูดจบเพื่อนเจ้ก็หยิบแก้วเหล้ากระดกเข้าปากต่อ ส่วนเจ้ ตลอดครึ่งชั่วโมงที่ฟังเพื่อนมา เจ้แทบไม่ได้หยิบดื่มเลย เพราะเรื่องที่เพื่อนเจ้เล่าให้ฟัง มันขมกว่าเหล้าเยอะ ไม่ต้องดื่มเหล้า ลิ้นก็ปร่าแล้ว
เจ้พยักหน้าตาม
“งั้นก็จำเสียว่าเป็นบทเรียนไปเนอะ”
ฮีเงยหน้าจากแก้วเหล้าเสียงอ้อแอ้
“บทเรียนว่า จะดูใครต้องดูให้นานกว่านี้ป่ะหมอ?”
เจ้ส่ายหน้า “ไม่ใช่ว่ะแก”
ฮีถามต่อ “งั้นบทเรียนไรล่ะหมอ?”
บทเรียนที่ว่า ...
อย่าผลักไส #ภาระรักษาความรัก
ให้ตกเป็นหน้าที่ของเขาฝ่ายเดียวไง
ไม่ได้บอกว่ารักเพราะความดีมันไม่ดีนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด
เจ้กำลังจะชวนให้เรามองอีกมุมหนึ่งว่า เวลาเราบอกว่า “รักคุณเพราะคุณเป็นคนดี” มันแปลว่า เอาความดีมา เอารักผมไป และตราบใดที่คุณยื่นความดีส่งมา คุณก็จะได้ความรักจากผมไป แบบนี้หรือเปล่า? มันคือการแลกเปลี่ยนแบบนี้หรือเปล่า?
ความดีของคุณหล่อเลี้ยงใจผม
และความรักของผมตอบแทนความดีของคุณ
นั่นเท่ากับว่า “คุณต้องรักษาความดีของคุณไว้นะ เพราะเมื่อคุณไม่มีความดียื่นมาให้ผม ความรักที่ผมยื่นให้คุณ ก็อาจจะหมด จบ ปิด เช่นเดียวกัน”
และในเมื่อ “ความรัก” คือสิ่งที่หล่อเลี้ยง “ความสัมพันธ์”
เมื่อเสียความดี ก็ไม่มีความรัก แล้วอะไรจะมาคงความสัมพันธ์ไว้ล่ะ?
ดังนั้น “รักคุณเพราะคุณเป็นคนดี” มองอีกที มันก็คือผลักภาระ “คุณต้องเป็นคนดี เพื่อรักษารักของเราไว้นะ” ใส่อีกฝ่ายหนึ่งเหมือนกันนะเธอ
ความรักมันน่าจะเกิดจากเพราะ “เรารัก”
เพราะเราแค่ “อยากรัก” คนคนนี้หรือเปล่า?
แล้วถ้าคนที่เรารัก เกิดเป็นคนดีแสนดี
นี่ต่างหากคือโบนัสที่มาจากความรักครั้งนี้
ในกรณีเพื่อนเจ้ คงเพราะเขารักแต่คนที่ร้ายๆมาหลายทีมาก แต่นั่นไม่ใช่เหรอ คือบทเรียนที่บอกว่า รักไม่เกี่ยวอะไรกับความดีไง ทีนี้พอเขาหลงเอาความดีมาตั้งเป็นหลักแล้วรัก ผลลัพธ์ตอนปลาย ก็เลยกลายเป็นแบบนี้
เจ้เคยบอกว่าความดีมันแลกเป็นความรักไม่ได้ และถ้าฝืนแลกไป แม้มันจะได้ แต่ผลสุดท้ายพอเขาทำพลาด สิ่งที่เคยหล่อเลี้ยงใจเธอให้รักเขาขาดไป เธอก็จะหยุดรัก พร้อมกับหยุดความสัมพันธ์
แต่พอถึงจุดนั้นนะ ...
ไม่ใช่เขาหรอกนะที่เสียเธอ
แต่เธอต่างหากที่จะเสียใจ
เพราะทั้งหมดทั้งปวง
มันอาจจะไม่ใช่ความผิดเขาที่พลาด
แต่มันเป็นความผิดเธอตั้งแต่ต้นต่างหาก
ที่ผลักไส “ภาระรักษาความรัก”
ให้ไปเป็นหน้าที่ของเขาเพียงคนเดียว
เธอจ๋า ...
คนเรามันทำดีตลอดเพื่อรักษารักษารักไม่ได้หรอก
แต่ความรักมันช่วยให้เราพยายามทำดีได้ต่างหาก
และสอง #ประโยคสัญรัก นี่ มันต่างกันค่ะ
นี่แหละ คือเหตุผล ว่าทำไม
เราถึงไม่ควรรักใคร แค่เพราะเขา เป็น คน ดี